ในวัย 30 ขึ้น
อาจเป็นช่วงอายุที่เราค่อยๆคุ้นเคยกับการสูญเสีย
คนที่เรารักหลายคนเริ่มแก่ลง
และบางคนก็จากไป
เราได้ข่าวคนเข้าโรงพยาบาลบ่อยขึ้น
คุ้นเคยกับการป่วยของญาติผู้ใหญ่มากขึ้น
วันนี้แม่ลงรูปคู่กับพ่อใน Facebook
เป็นรูปที่ทั้งสองคนดูมีความสุขดี
นั่งมองรูปที่ทั้งสองคนยิ้ม
แล้วก็เกิดความรู้สึกว่า
จริงๆแล้วเราไม่ได้มองหน้าพ่อกับแม่ใกล้ๆชัดๆแบบนี้นานแล้วเหมือนกันนะ
แววตา สีหน้า รอยยิ้มที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก
แต่กลับไม่เคยได้เพ่งเล็งรายละเอียดอะไรของพวกเค้าเลย
นั่งมองรูปพ่อกับแม่สลับกันไปมา สุดท้ายก็พบว่า
สองคนนี้ที่เคยหนุ่มสาว สองคนที่เคยพลังเยอะ
สองคนที่เคยตามดุด่าและให้กำลังใจเรามาสามสิบกว่าปี
กลายเป็นสองคนที่ตอนนี้เริ่มร่วงโรยแล้ว
อืม......พ่อกับแม่เราเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ
ในวัย 30 ขึ้น
ทุกครั้งที่มีคนใกล้ตัวจากไป
เรามักจะพูดกับตัวเองเสมอว่า
เราจะดูแลคนที่เหลือให้ดี
เราจะให้ความรักและเอาใจใส่
เพราะเรารู้ว่าเวลาของทุกคนในวัยเด็กของเรากำลังจะหมดไป
แต่ในวัย 30 ขึ้น
ก็กลับมีเรื่องราวชีวิตมากมายให้เราต้องรับผิดชอบ
เรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องการต้องสร้างตัว
หรือแม้แต่เรื่องความรักที่มันวุ่นวาย
หลายครั้งเราก็ลืมคำที่เราเคยพูดเอาไว้
หลายครั้งเราก็ละเลยกับคนที่เรารัก
หลายครั้งเราก็คิดว่าเอาไว้ก่อนแล้วกัน...ยังมีเวลาอีกนาน
แต่ความจริงมันกลับไม่มีอะไรที่นาน
เวลามันผ่านไปเร็วมาก
และไม่เคยหยุดหรือย้อนกลับไปได้เลย
ในวัย 30 ขึ้น
อาจเป็นช่วงอายุที่เราค่อยๆคุ้นเคยกับการสูญเสีย
ทุกอย่างรอบตัวเริ่มหายไปทีละอย่าง
พ่อแม่ของเราก็เริ่มร่วงโรย
แม้แต่หมาที่เคยเห็นมันมาแต่เกิดก็เริ่มเอาแต่นอน
อายุเรามากขึ้น
และอาจจะพูดได้ว่าเริ่มมากแล้ว
อายุที่มากขึ้น
นั่นแปลว่าเราจะอยู่ในโลกได้น้อยลง
และถูกต้อง
คนที่เรารักทุกคนในวัยเด็กก็อายุมากขึ้นเช่นกัน
รัก
ช่า บันทึกของตุ๊ด